“หมากล้อม” เกมกระดานที่ได้ชื่อว่าซับซ้อนที่สุดได้ถูก AI พิชิตอย่างสมบูรณ์

หลังจาก AlphaGo มีชัยเหนือ Lee Sedol นักเล่นหมากล้อมมืออัน 4 ของโลก 4-1 เกม ในการแข่งขันเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว AlphaGo ก็มีข่าวความท้าทายใหม่ๆ ออกมาเป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมตัวเรียนรู้เพื่อลงสู่สนามของเกมวางแผนระดับตำนานอย่าง Starcraft และมีส่วนพัวพันกับนักเล่นหมากล้อมบนอินเตอร์เน็ตผู้ลึกลับ ที่สร้างความสะเทือนในโลกของนักเล่นหมากล้อมบนอินเตอร์เน็ตในช่วงหยุดยาวปีใหม่ที่ผ่านมา วันนี้ก็ถึงเวลาของ Ke Jie นักเล่นหมากล้อมมือวางอันดับหนึ่งของโลกคนปัจจุบัน

พฤษภาคมปี 1997 ชัยชนะของ Deep Blue ที่ถูกพัฒนาโดย IBM ที่มีต่อแกรี คาสปารอฟ ( Garry Kimovich Kasparov ) แชมป์หมากรุกโลกในเวลานั้น ด้วยคะแนน 3-1/2 ต่อ 2-1/2 และเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่สามารถเอาชนะแชมป์หมากรุกโลกได้สำเร็จ แต่ก็มีข้อกังขามากมาย ทำให้ในวันนั้นแม้ว่าแชมป์หมากรุกโลกจะแพ้ แต่ผู้คนยังไม่ได้รู้สึกถึงความมหัศจรรย์ของสิ่งที่เกิดขึ้นมากนัก เนื่องจากกลไกของหมากรุก และกลยุทธ์ที่ถูกใช้ในเกม ทำให้เข้าใจได้ว่ากลยุทธ์การเดินหมากตาที่ดีที่สุดยังคงใช้ได้เสมอ และเกมหมากรุกนั้นในช่วงหลังความน่าจะเป็นของเกมจะยิ่งลดลง เนื่องจากมีตัวหมากลดลง ทำให้การสูญเสียหมากตัวสำคัญมีผลกระทบต่อเกมมากขึ้น จนถึงขั้นคาดเดาบทสรุปของเกมได้เลย ซึ่งในเวลานั้นทุกคนเห็นตรงกันว่า มนุษย์ยังคงเป็นที่สุดของภูมิปัญญาเช่นเดิม เนื่องจากมองว่าเกมหมากรุกไม่ได้พิสูจน์ว่า คอมพิวเตอร์นั้นจินตนาการได้ เพราะเพียงแค่เล่นบนหมากที่ดีที่สุดเสมอก็จะสามารถคว้าชัยได้โดยที่แทบจะไม่ต้องใช้จินตนาการใดเลย และยังคงเชื่อมั่นว่าในโลกของหมากล้อมที่สุดของเกมกระดานแห่งมวลมนุษยชาติ ซึ่งมีความซับซ้อนและความน่าจะเป็นมากกว่าจำนวนอะตอมที่เรารู้จักในจักรวาล คอมพิวเตอร์ไม่มีทางหาเจอแน่ๆ ว่ารูปแบบใดที่ดีที่สุดในการเดินแต่ละตาต้องใช้เวลานานมากๆ และถึงแม้ว่าจะเจอ แต่มันก็ไม่ได้แปลว่ามันจะดีทีสุดเสมอไป เนื่องจากทางเดินของหมากนั้นกว้างมาก นั่นกลายเป็นข้อพิสูจน์เสมอมาว่า คอมพิวเตอร์ยังไม่ใช่สิ่งที่คิดเองได้

จนกระทั่ง…

ในปี 2014 บริษัทไอทียักษ์ใหญ่อย่าง Google Inc. ได้เข้าซื้อกิจการที่ชื่อ Deepmind ในราคา 500 ล้านเหรียญสหรัฐ บริษัท Deepmind ก่อนตั้งโดย นักวิจัยทางด้านปัญญาประดิษฐ์ ( Artificial Intelligence ) 2 คน คือ Demis Hassabis กับ Shane Legg และ Mustafa Suleyman ในฐานะ ผู้ดูแลผลิตภัณฑ์ (CPO – Chief Product Officer) นั่นทำให้ Deepmind กลายเป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการด้านจริยธรรมของปัญญาประดิษฐ์ ( Ethics of Artificial Intelligence ) ผ่านทาง Google Inc. ซึ่งเป็นสมาชิกอยู่แล้ว ร่วมกับอีกหลายบริษัทชั้นนำ Facebook, Amazon, Microsoft, IBM และ Apple Inc.

และในปี 2015 AlphaGO คอมพิวเตอร์ที่เล่นหมากล้อมได้จาก Deepmind ก็เริ่มแสดงความสามารถ ที่เหนือกว่าระบบปัญญาประดิษฐ์ในรุ่นก่อนๆ อย่าง Deep Blue โดยมันได้ส่งสัญญาณเตือนวงการหมากล้อมระดับโลกว่า เครื่องจักรกลกำลังคืบคลานเข้าสู่ พื้นที่เกมที่มนุษยชาติกล่าวขานกันว่ามีความซับซ้อนสูงที่สุดในโลก โดยการเอาชนะแชมป์หมากล้อมของยุโรป Fan Hui ลงได้ แต่ในวันนั้นนักเล่นหมากล้อมยังรู้สึกว่าการที่ปัญญาประดิษฐ์สามารถเอาชนะนักเล่นหมากล้อมระดับ 2 ดั้ง อย่าง Fan Hui ได้ อาจจะไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายมากนักจากเทคโนโลยีในปัจจุบัน โดยที่ก่อนหน้านี้ คอมพิวเตอร์สามารถทำได้แค่ในระดับสมัครเล่นเท่านั้น แต่ในวงการหมากล้อมนั้น ระดับสุดยอดจริงๆคือ 9 ดั้ง ยังไม่มีคอมพิวเตอร์เครื่องใดสามารถเทียบชั้นได้มาก่อนในประวัติศาสตร์ และมันยากมากที่จะจินตนาการว่าคอมพิวเตอร์จะสามารถเดินไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร เพราะมันไม่มีทางที่คอมพิวเตอร์จะประมวลผลสิ่งที่มีความซับซ้อนในความสัมพันธ์สูงมากขนาดนั้นได้ ( มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะสามารถพัฒนา อัลกอริทึม ในการจัดการเหตุการณ์ที่แม้แต่ผู้พัฒนาอัลกอริทึมเองยังไม่สามารถเข้าใจในกลไกทั้งหมดได้ ) แต่ในครั้งนั้น Fan Hui ได้กล่าวว่า AlphaGo นั้นไม่เหมือนกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นที่เคยเจอมาก่อน บ่อยครั้งที่การเดินของมัน เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน

5 เกม แห่งประวัติศาสตร์ และ 1 กระดานในความทรงจำ

เดือนมีนาคม 2016 ในงาน Google Deepmind Challenge ซึ่งถูกจัดขึ้นเพื่อให้ คอมพิวเตอร์เล่นหมากล้อมอย่าง AlphaGo ดวลกับปรมาจารย์หมากล้อมระดับ 9 ดั้ง และครองตำแหน่งมือวางอันดับ 4 ของโลก อย่าง Lee Sedol ชาวเกาหลีใต้ ซึ่งนับว่าเกิดขึ้นได้ยากยิ่ง เนื่องจากในเวลานั้น ปรมาจารย์หมากล้อมระดับนี้ ไม่มีใครอยากจะเสียเวลามาเล่นเกมกับคอมพิวเตอร์ที่มือไม่ถึง… แต่การแข่งขันนี้ก็ได้รับการจับตาจากนักเล่นหมากล้อมทั่วโลก แม้ว่าหลายๆคนจะคาดว่า Lee จะสามารถกวาดชัยเหนือ AlphaGo ได้ทั้ง 5 กระดานรวดอย่างแน่นอน แต่ทุกคนก็อยากเห็นฟอร์มของผู้ท้าชิงอย่าง AlphaGo และคาดหวังว่ามันจะทำได้ดี และทำให้วงการหมากล้อมมีสีสัน และสนุกขึ้นสำหรับทุกคน

คำทักทายของ AlphaGO และ Lee Sedol

ในกระดานแรกของวันที่ 9 มีนาคม 2016 AlphaGo เหมือนกับผู้เล่นดาวรุ่ง หน้าใหม่ ที่ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครรู้ว่ามีรูปแบบ หรือแนวทางการเล่นแบบใด การลองหยั่งเชิงจาก Lee Sedol ในช่วงแรกของกระดาน เป็นคำทักทาย เพื่อให้รู้จักกันมากขึ้น และการโต้ตอบของ AlphaGo ต่อการรุกรานของ Lee Sedol ก็เปรียบเสมือนการทักตอบ ที่สื่อสารไปยังเซียนหมากล้อมทั่วโลกว่า AlphaGo คือใคร และในกระดานนั้นเซียนหมากล้อมทั่วโลกก็รู้จัก AlphaGo ในฐานะคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่มีความสามารถในการเล่นหมากล้อมได้ไม่ต่างจากมนุษย์ มีความก้าวร้าว ดุดัน รู้จักฉวยโอกาส และเอาตัวรอด แต่ยังมีความผิดพลาด ชัยชนะของ AlphaGo ในกระดานนี้ ทำให้เซียนหมากล้อมมอง AlphaGo ต่างไปจากเดิม และนี่คือเกมแรกในประวัติศาสตร์ที่เซียนหมากล้อมระดับสูงพ่ายแพ้ให้กับคอมพิวเตอร์

“ชัยชนะ ไม่ใช่สิ่งที่กำหนดได้”

ดั่งคำกล่าวของ ซุนวู่ ( Sun Tzu / Sun Zi ) ที่เขียนไว้ใน “ตำราพิชัยสงคราม” ( The Art of War ) ที่ว่า

“การจะมีชีวิตอยู่รอดยืนยาวได้นั้น มันขึ้นอยู่กับความพยายามของคนๆนั้น
หากแต่การจะสามารถมีชัยเหนือศัตรูได้ มันกลับขึ้นอยู่กับความผิดพลาดในครึ่งหลังของศัตรูเอง”
“….จึงกล่าวกันว่า ชัยชนะนั้นสามารถคาดเดาได้ แต่ไม่สามารถบังคับได้”

กระดานที่สอง เห็นได้ชัดว่ากระดานนี้ Lee มีความแน่วแน่และจริงจังมากในการเล่น มีความนิ่งและพลังในการเฝ้ารอเพื่อโจมตีเมื่อศัตรูผิดพลาด แต่ AlphaGo กลับแสดงออกถึงสิ่งที่ทุกคนสงสัย AlphaGo มีจินตนาการในการเล่นที่เต็มเปี่ยม มีความพลิ้วไหวทำให้รูปเกมออกมาอย่างสูสี จนแม้แต่เซียนหมากล้อมหลายคนยังชมว่า AlphaGo ทำได้ดีมาก ถ้าหากเป็นเขาโดน Lee กดดันขนาดนี้อาจจะพลาดไปแล้ว แต่ AlphaGo ยังสามารถเอาตัวรอดมาได้เรื่อยๆ มีความผิดพลาดน้อยมากในเกมนี้ ซึ่ง Lee ก็พลาดโอกาสในการจู่โจมไปอย่างน่าเสียดาย ชัยชนะของ AlphaGo ในกระดานนี้ เหล่าเซียนหมากล้อมเริ่มรู้แล้วว่า AlphaGo สามารถเล่นหมากล้อมชั้นสูงได้ราวกับมีชีวิตจริงๆ และทุกคนรู้ตัวแล้วว่า พวกเขาควรที่จะร่วมกันให้กำลังใจตัวแทนของพวกเขาให้คว้าชัยชนะในเกมที่เหลือมากกว่า

จี้จุดอ่อน

หลังความพ่ายแพ้สองเกมติดกัน Lee และทีมทำการบ้านมาอย่างหนักเพื่อค้นหาจุดอ่อนของ AlphaGo ในเกม Lee ได้เปิดสงครามกับ AlphaGo เต็มรูปแบบ พยายามทำตามแผนที่เตรียมมาได้อย่างดี เพื่อลดความแตกต่างของศักยภาพระหว่างคอมพิวเตอร์กับมนุษย์ และเขาทำได้ดีมากๆ เป็นอีกเกมที่ทุกๆคนชมเชยว่าคงไม่สามารถจะคาดหวังอะไรจากเขาได้มากกว่านี้อีกแล้ว ( จริงๆนะถ้าได้ดูเกมนั้น จะรู้สึกว่านี่เกินที่คาดหวังไว้แล้วล่ะ ) แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถคว้าชัยชนะในเกมที่ 3 นี้ไว้ได้

“หัตถ์เทวะ” ความเหนือชั้น ที่ทุกคนรู้สึกว่าชีวิตนี้แค่ได้เห็นหมากตานี้ก็คุ้มแล้ว

จากความพ่ายแพ้ในสามเกมที่ผ่านมา ภูเขาแห่งตัวแทนคนทั้งโลกที่ Lee แบกไว้ได้หายไป Lee มีอิสระในการเล่นเกมที่ 4 มากขึ้น เขาแค่รู้ว่าเขาอยากจะชนะสักเกม และเกมนั้นคงต้องมีดี และมีค่าควรจดจำไว้ในประวัติศาสตร์ ทั้งในแง่ของประวัติศาสตร์ปัญญาประดิษฐ์ และประวัติศาสตร์ของหมากล้อม แล้วสิ่งนั้นก็ได้เกิดขึ้น ในหมากตาที่ 71 AlphaGo เดินหมาก K11 เพื่อตั้งรับการบุกจาก Lee เพื่อรักษาแต้มที่นำอยู่ แม้ว่า Lee จะตอบโต้ที่จุดอ่อนของ AlphaGo แต่ก็ไม่ได้ทำให้อะไรเปลี่ยนแปลง ในมุมมองของเหล่าเซียนและผู้บรรยายเกม เกมนี้ได้จบแล้ว ผู้ชนะควรเป็น AlphaGo แต่แล้ว Lee ก็ได้ทำให้ทุกคนประหลาดใจกับการวางหมากสีขาว ในตาเดินที่ 78 บนจุด L11 ด้วยหมากนี้ทำให้สิ่งที่ AlphaGo สร้างมาตลอด พังทลายลงในทันที “หัตถ์เทวะ” นี้ทำให้  Lee ได้ชัยชนะในเกมที่ 4 ไป หลังจบเกมหลายคนลงความเห็นว่า หมากนี้ทำได้เพราะมันคือหมากที่ไม่มีใครนึกถึงมัน ดังนั้นแล้ว AlphaGo ก็จะไม่รู้จักกับหมากนี้ด้วยเช่นกัน ในหลายสิบล้านเกมที่ AlphaGo ได้เรียนรู้ หมากนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมากก่อน และ Lee เพิ่งแสดงให้ AlphaGo และผู้ชมได้เห็นเป็นครั้งแรกพร้อมๆกัน ชัยชนะในเกมนี้เหมาะสมแล้วที่ควรเป็นของ Lee จากการยอมแพ้ของ AlphaGo

อารมณ์ และความรู้สึก คือความแตกต่าง

ในเกมที่ 5 เกมสุดท้ายนี้ เหมือนว่า Lee จะรู้จัก AlphaGo ค่อนข้างดีทีเดียว ซึ่งต่างฝ่ายต่างมีแผน และเล่นตามเกมของตนได้อย่างดี Lee สามารถเอาชนะในศึกเล็กๆระหว่างกระดาน และดูเหมือนจะขึ้นนำเล็กน้อยได้ การตอบโต้อย่างรัดกุมและเฉียบคมของ AlphaGo ทำให้ยังคงไม่หลุดไปจากเกม แต่ด้วยสถานการณ์ของเกมที่ค่อนข้างกดดัน และมีความผันผวนอย่างมาก ทำให้ Lee จัดการสถานการณ์ได้ยากลำบาก บ่อยครั้งที่เขาเล่นรัดกุมเกินไป อาจเพราะเขารู้ว่าหมากที่ใช้ความดุดันที่ทำให้ขึ้นนำในตอนต้น ก็ไม่ได้แข็งแรงมากนัก เพียงเพราะความรู้สึกไม่มั่นคงนี้ อาจจะเป็นผลให้เขารับมือการเดินหมากที่แปลกๆ แต่มีความหมายของ AlphaGo ได้ยากมากกว่าที่ควรจะเป็น และในท้ายเกม AlphaGo ก็ใช้หมากเหล่านั้นสร้างประโยชน์เพื่อคว้าชัยชนะในเกมนี้ไปได้

ความแตกต่างของ 4-1 เกมและ 3-2 เกม

หลังจากจบเกม กลายเป็นการที่มีเรื่องราวให้ได้พูดถึงมากมาย และหาก Lee คว้าชัยในกระดานสุดท้ายได้ นั่นอาจจะทำให้มีข้อกังขา และสงสัยได้ว่า ถ้าหากมีการแข่งขันที่ยาวนานกว่านี้ AlphaGo จะถูกดักทางได้หรือไม่ แต่นั่นคือสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้น เพราะสุดท้ายแล้ว Lee Sedol นักหมากล้อมมือวางอันดับ 4 ของโลก ก็พ่ายแพ้ต่อ AlphaGo คอมพิวเตอร์หมากล้อม และ AlphaGo ก็กลายเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่สามารถเอาชนะนักเล่นหมากล้อมระดับสูงได้อย่างเป็นทางการ ในขณะเดียวกัน ชัยชนะในกระดานที่ 4 ก็ทำให้ Lee Sedol คือมนุษย์คนแรกที่เอาชนะ AlphaGo ได้ในเกมระดับสูง และนั่นทำให้ AlphaGo ได้กลายเป็นคอมพิวเตอร์ที่เล่นหมากล้อมระดับ 9 ดั้ง อย่างเป็นทางการ นอกจากการได้รับการยอมรับแล้ว ตาหมากที่ 78 บนจุด L11 ในกระดานที่ 4 ของ Lee ก็เปรียบได้ดั่งของรางวัลล้ำค่าที่ Lee ได้มอบให้เป็นของขวัญกับ Deepmind ซึ่งนั่นคือสิ่งล้ำค่าที่สุดในการแข่งขันนี้เลยทีเดียว ภายหลังจบเกม มีคำถามกันว่า AlphaGo จะสามารถเอาชนะ Ke Jie นักหมากล้อมมือวางอันดับ 1 ของโลกคนปัจจุบันได้หรือไม่ เนื่องจาก Ke Jie ได้เอาชนะ Lee Sedol มาในการแข่งขันล่าสุด 7 กระดานรวด

Master(P) ผู้เล่นหมากล้อมลึกลับ บนโลกออนไลน์

ระหว่างวันหยุดยาวในช่วงปีใหม่ 2016-2017 ในโลกของหมากล้อมออนไลน์ได้มีผู้เล่นลึกลับในนาม Master(P) ที่มีฝีมือในระดับสูงปรากฏตัวขึ้น โดยผู้เล่นนั้นสามารถเอาชนะ 60 เกม จาก 60 เกมที่เล่น โดยใน 60 เกมนั้นก็มีเกมกับผู้เล่นระดับสูงอยู่หลายเกม ก่อนที่ Master(P) จะหายตัวไป และในเวลาต่อมา Demis Hassabis ออกมายอมรับว่า Master(P) คือ AlphaGo นั่นเอง พวกเขากำลังทดลองระบบของ AlphaGo และการทดลองก็ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว

สิ่งที่ทุกคนรอคอยก็ได้เกิดขึ้น Ke Jie VS AlphaGo

หลังจากการทดสอบบนโลกออนไลน์ Google Deepmind ก็ได้จัดงาน “The Future of Go Summit” ที่  AlphaGo จะได้ท้าทาย Ke Jie มือวางอันดับ 1 ของโลกหมากล้อมในปัจจุบัน  แม้ว่านี่จะเป็นเกมที่เป็นทางการเกมแรกที่พวกเขาได้เจอกัน แต่ใน 60 เกมบนโลกออนไลน์นั้นพวกเขาได้เคยปะทะกันมาแล้ว และเกมนั้น AlphaGo ได้แสดงถึงพัฒนาการที่แตกต่างจากเมื่อตอนที่แข่งกับ Lee Sedol อย่างชัดเจน และนี่ไม่ใช่การแข่งขันที่ง่ายสำหรับเขาอย่างแน่นอน

Ke Jie เป็นนักหมากล้อมชาวจีน เกิดเมื่อปี 1997 เริ่มเล่นหมากล้อมตั้งแต่ 4-5 ขวบ และก้าวขึ้นมาเป็นระดับอาชีพเมื่อเขาอายุเพียง 11 ปี และในปัจจุบันเขาคือมือวางอันดับ 1 ในโลกหมากล้อม ด้วยวัยเพียง 19 ปีเศษ ในวงการหมากล้อมเขาจึงเป็นเด็กหนุ่มผู้เปี่ยมไปด้วยพลัง และความคิดสร้างสรรค์ในการเล่นหมากล้อมอย่างแท้จริง

Ke Jie ให้สัมภาษณ์กับ CGTN หลังแข่งกับ AlphaGO จบ

เกมที่สมบูรณ์แบบ

เพียงกระดานแรกเท่านั้น ทั้ง Ke Jie และ AlphaGo ก็ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเล่นหมากล้อมระดับสูง ที่สมบูรณ์แบบ ไร้ข้อผิดพลาดใดปรากฏให้เห็น ในบางช่วงเวลามีหมากที่ทำให้รู้สึกแปลกใจ แต่ก็ไม่ใช่หมากที่ก่อให้เกิดข้อสงสัยใด บางหมากของ AlphaGo เป็นหมากที่ไม่เคยปรากฏในการเล่นปกติของมนุษย์ แต่ Ke Jie ก็สามารถรับมือหมากเหล่านั้นได้ และสามารถผลักดันให้ AlphaGo ต้องใช้ศักยภาพจนสุดขีดจำกัดของตัวเอง แม้ว่าในกระดานนี้ AlphaGo จะเฉือนชนะไปเพียง 0.5 แต้มเท่านั้น แต่ 0.5 แต้มนี้อยู่บนเกมที่สมบูรณ์แบบและไร้ข้อผิดพลาด มันคือ 0.5 แต้มที่มาจากความแตกต่าง ด้านความเฉียบคม ที่ต้องคมสุดๆเท่านั้น จึงจะได้ 0.5 แต้มนี้ไปครอง

เกมที่เหนือระดับ

ในกระดานที่สอง เป็นเกมที่ค่อนข้างซับซ้อนอย่างมาก ในหลายพื้นที่มีกลุ่มย่อยหลายกลุ่ม ทางด้านล่างของกระดานที่มีความเชื่อมโยงกัน แต่ไม่มีความชัดเจนในการครอบครองพื้นที่ ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นบนกระดานราวกับว่า เป็นเพียงส่วนหนึ่งของอีกกระดานที่อยู่ในจินตนาการของ Ke Jie และ AlphaGo และเข้าใจว่าการหยุด Ko เกมในตาหมากที่ 137 และการวางหมากที่ 145 คงมีผลต่อ Ke Jie อย่างมาก หลังจากที่ AlphaGo ขัดขวาง Ke Jie ในตาหมากที่ 119 นั่นอาจจะนำมาสู่การโยนหมากของ Ke Jie แต่ทั้งหมดนั้นไม่มีใครรู้ว่ากระดานที่อยู่ในใจของ Ke Jie และสาเหตุในการโยนหมาก นั้นคืออะไรกันแน่ สิ่งเดียวที่เราสัมผัสได้คือ เขาทำเต็มที่แล้ว และนั่นคือความสวยงามของเกมที่ซับซ้อนยิ่งเกมนี้ AlphaGo นำ 2 กระดาน และ Ke Jie ยังคง 0

เกมสุดท้าย

ในกระดานนี้ Ke Jie พยายามเล่นอย่างยืดหยุ่นที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ เขาไม่ได้เน้นไปที่การครอบครองพื้นที่แบบในกระดานแรก หรือพยายามในการขัดขวางการขยายพื่นที่ของ AlphaGo มากเกินไปนัก แต่การเดินหมากของ AlphaGo นั้น มีความละเอียด และแฝงไว้ด้วยความหมายในการเผชิญหน้าบนทุกสมรภูมิของกระดาน หมากของทั้งคู่คือการช่วงชิงพื้นที่เดียวกัน การขยายพื้นที่ตนเองไปพร้อมๆกับการยับยั้งการขยายพื้นที่ของฝั่งตรงข้าม และในกระดานนี้แม้ว่า Ke Jie จะทำได้สุดยอดมากแล้ว แต่ AlphaGo ยังสามารถทำให้หมากของ Ke Jie ตกอยู่ในอันตรายได้เสมอ สิ่งที่ Ke Jie ทำได้คือการเอาตัวรอดเพื่อพบกับความอันตรายถัดไปเท่านั้น ดูเหมือนว่าไม่ว่า Ke Jie จะพยายามมากเท่าไหร่ AlphaGo จะนำเขาอยู่ 1 ก้าวเสมอ ทั้งที่สิ่งที่เขาทำนั้น ก็ดีที่สุดเท่าที่มือวางอันดับ 1 ของโลกนี้จะทำได้แล้วและ Ke Jie ก็โยนหมากในตาเดินที่ 209 … เป็นการสิ้นสุดของเกมแห่งประวัติศาสตร์นี้

เพียง 3 กระดาน ก็ได้ให้กำเนิดแนวทางการวางหมากใหม่ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการวางหมากแบบจีนที่ AlphaGO ชอบใช้ในตอนต้นเกม ซึ่งเป็นรูปแบบที่ตกต่างออกไปจากเดิม และผู้บรรยายบอกว่า รูปแบบนี้คงจะได้รับความนิยมในเร็วๆ นี้แน่นอน มีรูปแบบอีกมากมายอยู่ใน 3 กระดานนี้ ซึ่งเหล่าเซียนคงจะต้องตามวิเคราะห์ และเผยแพร่กันตามมาอีกมากมาย

สำหรับ Ke Jie ความพ่ายแพ้ 3 เกมติดกันแบบนี้ คงเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากยิ่ง หลังจบเกมเขาใช้เวลานั่งวิเคราะห์จุดผิดพลาดอยู่นานเกือบชั่วโมง แต่ละหมากที่เขาใช้แสดงออกถึงความตั้งใจและความพยายามอย่างมากในการต่อสู้ แต่ทั้งหมดนั้นไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลย ไม่มีความปราณีใดปรากฏบนตาหมากของ AlphaGo ตลอดทั้ง 3 กระดาน สำหรับคนที่เกลียดความพ่ายแพ้ มันคงทรมานยิ่งที่จะต้องยอมรับมัน และกระดานสุดท้ายที่ได้จบไปกับ AlphaGo จะเป็นกระดานสุดท้ายที่เขาเล่นกับ AI

ส่วน AlphaGo เองนี่ก็เป็นกระดานสุดท้ายเช่นกัน เพราะ Deepmind จะไม่ทำ AI สำหรับเล่นหมากล้อมอีกต่อไปแล้ว และจะมองหาความท้าทายในเรื่องอื่นๆต่อไป แต่จะมีการเปิดเผยเกมที่ AlphaGo เล่นกับตัวเอง เพื่อให้คนอื่นๆ ได้ศึกษา

โลกนี้ได้อะไรบ้างจากการกำเนิดขึ้นของ AlphaGo??

ในโลกของหมากล้อม คงเห็นได้ชัดเจนที่สุด ประสบการณ์ใหม่ๆ รูปแบบใหม่ๆ ที่มาพร้อมกับ AlphaGo และความพยายามในการสยบ AlphaGo ซึ่งหากไม่มี AlphaGo ก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน หมากเหล่านี้จึงปรากฏ

ในโลกของเทคโนโลยี เราได้ AI ที่สามารถเรียนรู้เรื่องราวที่มีความซับซ้อนที่สุดในจักรวาลจากมุมมองของมนุษย์ และนี่อาจจะเป็นวิธีที่ทำให้เราก้าวข้ามข้อจำกัดทางวิวัฒนาการที่มีมาตั้งแต่อดีตของเรา ทำให้อนาคตของเผ่าพันธุ์ของเรามีความมั่นคงมากขึ้น

แล้ว Google ได้อะไรจากงบประมาณมหาศาลที่ได้ทุ่มเทลงไป… บางทีการประเมินเพื่อหาคำตอบที่ชัดเจนจากการลงทุนนี้ อาจจะซับซ้อนพอๆกับ รูปแบบหมากของ AlphaGo ก็เป็นได้